เอกเดินหางานทำทั้งวันก็ไม่มีใครรับ เพราะเขาเคยมีอดีตเป็นผู้ต้องขังในข้อหาคดีพรากผู้เยาว์ แท้จริงแล้วเขารับผิดแทนน้องชายเพราะแม่ขอร้องด้วยเหตุผลที่น้องยังเป็นเยาวชน ในขณะนั้นเอกทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังไปได้ดี ตอนที่เขาอยู่ในที่คุมขังแม่และน้องไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลย เมื่อเอกได้รับการปล่อยตัวและกลับบ้านจึงรู้ว่าแม่และน้องได้ย้ายออกไปจากชุมชนนี้แล้ว และไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน เอกจึงตัดสินใจเดินทางออกจากชุมชนที่เขาเคยอยู่ไปตายเอาดาบหน้า เอกมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งจากการทำงานก่อนที่จะเป็นผู้ต้องขัง เขาจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อหางานทำ
อย่างแรกที่เขาต้องทำคือหาที่พัก เอกเลือกที่พักที่ถูกที่สุดพอแค่พักพิงเวลาค่ำคืนและเขาก็ได้เจอหอพักเจ๊มิ่ง ขณะที่เจ๊มิ่งกำลังพาเอกไปที่ห้องพักเธอได้ถูกวิ่งราวกระเป๋า เอกได้วิ่งตามจนได้กระเป๋ากลับมา ทำให้เจ๊มิ่งประทับใจมากให้ค่าตอบแทนเอก แต่เอกไม่รับ เจ๊มิ่งรู้ว่าเอกกำลังหางานทำจึงเสนอให้เอกมาเป็นคนสวนที่บ้านเธอ ซึ่งเอกก็ตอบตกลงเพราะเจ๊มิ่งให้ที่พักที่บ้านฟรี และข้าว 3 มื้อ เอกขยันขันแข็ง ทำงานเรียบร้อย หนักเอาเบาสู้ทำให้เจ๊มิ่งและสามีชอบเอกมาก เจ๊มิ่งมีลูกสาววัยรุ่นอยู่หนึ่งคนซึ่งไม่ชอบขี้หน้าเอกมากนัก เจนเด็กสาวที่ติดโซเชียลอย่างหนัก ไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็โพสลงโซเชียลเพราะฝันอยากเป็นอินฟูลฯชื่อดัง มีอยู่วันหนึ่งบ้านเจ๊มิ่งถูกโจรบุกเข้ามาขโมยของกลางดึก ไฟบ้านหลังใหญ่ถูกเปิดทุกดวงจนเอกสงสัยและเข้าไปสอบถาม ที่นั่นเขาพบตำรวจและชาวบ้านละแวกนั้นเข้ามามุงเพราะสามีเจ๊มิ่งถูกทำร้ายจนต้องส่งโรงพยาบาล เจนร้องไห้จนตัวสั่น มีชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “นั่นไอ้เอก ไอ้ขี้คุกนี่ มันแน่ๆที่ขโมยของบ้านเจ๊มิ่ง” ขณะนี้สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เอก ไม่เว้นแม้แต่เจ๊มิ่ง เจนโวยวายด่าทอเอกและบอกให้ตำรวจจับเอกเข้าคุกเพราะทำร้ายพ่อและขโมยของในบ้าน “จับมันเลยคะคุณตำรวจ” เจนโวยวายและจะเข้าไปทำร้ายเอก เจ๊มิ่งเดินเข้ามาที่เอกที่ยืนก้มหน้าตาแดงก่ำและบอกว่า “ถ้าเธอบริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวอะไร” มืออุ่นๆแตะเบาๆที่แขนของเอกทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง จริงๆแล้วเจ๊มิ่งและสามีรู้อยู่แล้วว่าเอกเคยเป็นผู้ต้องหาและติดคุก เป็นเอกเองที่พูดความจริงนี้กับสองสามีภรรยาเพราะไม่ต้องการปิดบัง ทั้งสองก็ยังให้โอกาสเอกได้ทำงานที่บ้าน ตำรวจจับกุมตัวเอกในฐานะผู้ต้องสงสัย เอกเข้าไปสอบปากคำที่โรงพักอยู่พักใหญ่จึงถูกปล่อยตัวกลับมาเพราะไม่มีส่วนรู้เห็น เจ๊มิ่งและสามีไม่ติดใจอะไร แต่เจนกลับมองเอกด้วยท่าทีที่รังเกียจ ตั้งแต่นั้นมาเจนก็เรียกเอกว่าไอ้ขี้คุกตลอดถึงเจ๊มิ่งจะดุไว้แล้วก็ตาม
วันหนึ่งเจ๊มิ่งและสามีออกไปติดต่องานจะกลับดึก เอกได้ยินเสียงแปลกๆจึงเดินย่องเข้าไปดู ปรากฎว่าประตูบ้านถูกงัดและเปิดออก ทันใดนั้นเองเอกได้ยินเสียงกรีดร้องของเจนเขาจึงรีบเข้าไปช่วย พบคนร้ายกำลังจะทำมิดีมิร้ายเจน เอกรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่คนร้ายมีมีดสั้นเป็นอาวุธ เอกใช้ตัวกันเจนไว้เพื่อไม่ให้เป็นอันตราย เจนกลัวจนตัวสั่น ร้องไห้จนน่าสงสาร ด้วยความกลัวเมื่อเจนได้ยินเสียงเหมือนรถของพ่อกับแม่กลับมาเธอจึงผลักเอกเข้าไปหาคนร้าย และตัวเธอวิ่งออกมาจากห้องลงด้านล่าง ผลจากการผลักของเจนทำให้เอกโอนของมีคมแทงเข้าไปที่ช่องท้องอย่างจัง แต่เขาใช้เฮือกสุดท้ายที่มีกระโจนเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงคนร้ายไว้ เอกใช้แจกันตีไปที่หัวจนคนร้ายสลบ เลือดเอกเริ่มไหลออกมามาก ก่อนที่เขาหมดสติเขาเห็นเจ๊มิ่งและสามีวิ่งขึ้นมาและภาพก็ตัดไป
เอกตื่นขึ้นมาอีกวันที่โรงพยาบาล ข้างๆเขามีเจ๊มิ่ง สามี และเจน เจนยกมือไหว้ขอบคุณและขอโทษเอก คนร้ายให้การรับสารภาพว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เข้ามาขโมยของเมื่อครั้งก่อน เขามาตามที่เจนปักหมุดสถานที่และโพสลงโซเชียล และคืนนั้นเช่นกันเขาเห็นเจนโพสว่าอยู่บ้านคนเดียว เขาจึงกลับเข้าไปอีกครั้ง เรื่องที่เกิดเพราะเจนแชร์ชีวิตประจำวันเธอมากเกินไป และทำให้เจนรู้สึกผิดที่เข้าใจผิดเอก เมื่อเอกออกจากโรงพยาบาลเขาได้ทำงานต่อที่บ้านเจ๊มิ่ง แต่ด้วยความที่เอกเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วเจ๊มิ่งชอบในความซื่อสัตย์ของเอก จึงเลื่อนตำแหน่งให้เขามาเป็นผู้ช่วย
“โอกาส” สำหรับคนบางคนอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา แต่โอกาสไม่ได้มีหลายครั้ง ดังนั้นหากได้รับจงรักษาโอกาสนั้นไว้ให้ดี