“คริส” อาศัยอยู่ในครอบครัวที่ยากจน แม่ของคริสเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเธอยังมีน้องชายอีก 1 คน แม่ทำงานรับจ้างทั่วไปเพื่อจุนเจือครอบครัว คริสจบมัธยมปลายได้เพราะขอทุนเรียน ซึ่งตอนนี้เธออยู่ปี 2 แล้ว  ส่วนอีธานสอบเข้าเรียนหมอได้ตามที่ตั้งใจ เธอมักจะเห็นแม่ของเธอนั่งเหม่ออยู่บ่อยๆ และเธอมารู้ว่าแม่เธอไม่สามารถจะส่งเธอและน้องชายเรียนมหาวิทยาลัยพร้อมกันได้ ทั้งๆที่อยากส่งให้ทุกคนเรียนให้สูงจะได้ไม่ลำบากเหมือนเธอ สุดท้ายแล้วคริสจึงเสนอตัวดรอปเรียนเพื่อออกมาช่วยแม่ทำงานส่งน้องเรียน เพราะอีธานต้องใช้เงินจำนวนมากและต้องย้ายเข้าไปพักใกล้ๆมหาวิทยาลัย ตอนแรกแม่ของเธอก็คัดค้านแต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ            จากนั้นมาคริสก็ออกมาทำงานทุกอย่าง รับจ้างทั่วไป  ด้วยวุฒิการศึกษาที่น้อยคริสทำได้แค่รับจ้างทั่วไป ตอนกลางวันรับจ้างทำความสะอาดบ้าน  ตกเย็นรับจ้างล้างจานที่ร้านอาหาร เธอทำวนอยู่แบบนี้ ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม เงินทั้งหมดเธอให้แม่เพื่อส่งอีธานเรียน  วันหนึ่งขณะที่คริสทำงานที่ร้านอาหารและกำลังเก็บจานไปล้าง อีธานและเพื่อนๆนักศึกษาแพทย์ก็เข้ามาทานอาหารในร้าน คริสกลัวน้องชายอายจึงรีบเก็บจานและไม่มองหน้าอีธาน ส่วนอีธานพอเห็นว่าเป็นพี่สาวเขาจึงรีบเข้าไปทักทาย “คุณจำคนผิดแล้วคะ” คริสพูดพร้อมกับจะเดินเลี่ยงเพราะสายตาแอบเห็นเพื่อนๆของอีธานมองดูเขาสองคนอย่างสนใจ “ผมจะจำพี่สาวผมที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กได้ยังไงครับ”  คริสน้ำตาคลอเบ้าไม่คิดว่าน้องชายจะพูดแบบนี้ อีธานโอบเอวพี่สาวแล้วแนะนำให้กับเพื่อนๆ ส่วนเพื่อนๆนักศึกษาแพทย์ก็ยิ้มทักทายคริส ทำให้คริสยิ้มออกมาทั้งน้ำตา วันนี้ทั้งวันคริสทำงานไปยิ้มไปด้วยความชื่นใจและอิ่มอกอิ่มใจ  กลับบ้านเธอก็พบว่าแม่เตรียมอาหารไว้ให้และต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้ม คริสยิ้มตอบและเดินเข้าไปกอดแม่ “หนูไม่ต้องการอะไรแล้วคะแม่กลับมาบ้านเจอแม่ และส่งน้องจนเรียนจบหนูก็พอใจแล้วคะ”  “แต่หนูต้องมีชีวิตของหนูด้วย หนูเป็นเด็กดี ความดีจะตอบแทนหนูนะลูก” 

                เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่อีธานเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัด เขาขอย้ายมาที่โรงพยาบาลใกล้ๆครอบครัวจะได้กลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง อีธานมีพรสวรรค์ในการผ่าตัดตั้งแต่เรียน จนกระทั่งเป็นแพทย์ฝึกหัด อาจารย์หมอและเพื่อนร่วมรุ่นต่างก็ยกย่องให้เขาเป็นศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของรุ่น  ค่ำวันหนึ่งอีธานเข้าเวรปกติมีรถพยาบาลเข้ามาส่งคนไข้เคสอุบัติเหตุ และต้องทำการผ่าตัดด่วน อีธานเตรียมความพร้อมเหมือนเช่นเคย เคสผ่าตัดเป็นสิ่งที่เขาถนัดและไม่เคยประหม่า แต่ทว่า “คุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยนะคะ” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง อีธานเริ่มมือไม้เย็นและมองตามคนไข้ที่พึ่งเข็นผ่าน ใช่แล้วมันคือแม่ของเขานั่นเอง “พี่คริสครับ” คริสพอเห็นน้องชายเขารีบโผกอด “ช่วยแม่ด้วยอีธาน” สิ่งที่อีธานไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยคือต้องผ่าตัดคนใกล้ชิด โดยเฉพาะ “แม่” ของตัวเอง เสียงออกคำสั่งที่เคยดังอย่างมั่นใจ การจับอุปกรณ์ผ่าตัดที่คล่องแคล่ว ตอนนี้อีธานได้แต่ยืนตัวแข็งเมื่อเข้ามาในห้องผ่าตัด จนอาจารย์หมอสังเกตุเห็น “อีธานการเป็นหมอที่ดีคือการมองทุกคนเป็นคนไข้ เราจะไม่แยกว่าคนนี้คือญาติเรา คนนี้ไม่ใช่ญาติ แต่ทุกคนคือคนไข้ที่เราต้องรักษาเข้าใจมั้ย”  อีธานสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและเขาก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง การผ่าตัดผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่แม่ของเขาปลอดภัยเพราะสามารถเอาเลือดคลั่งออกจากสมองได้ทันเวลา แม่ของเขาพักฟื้นที่โรงพยาบาลจนอาการดีขึ้น และกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อ ตอนนี้คริสต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพราะจะขาดรายได้จากแม่ไปอีกสักระยะ เธอจึงรับงานทำความสะอาดเพิ่มจาก  1 หลัง เป็น 2 หลัง ในตอนกลางวัน ในวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังรีบร้อนจะไปรับงานล้างจานต่อในตอนเย็น เธอเห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังล้มอยู่บนฟุตบาท ท่าจะขาแพลงเพราะไม่สามารถลุกขึ้นได้ คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมาไม่ได้สนใจหญิงชราคนนั้นแม้แต่นิดเดียว คริสเองเมื่อเห็นใจหนึ่งก็อยากช่วย อีกใจก็กลัวเข้างานไม่ทัน เธอจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินผ่านหญิงชราคนนั้น แต่ทว่าเธอก็หยุดและถอนหายใจเอี้ยวตัวกับไปช่วยหญิงชราพาไปส่งโรงพยาบาลที่อีธานทำงานอยู่   เมื่อถึงมือหมอคริสจึงได้รีบออกไปจากโรงพยาลก่อนไปเธอฝากอีธานติดต่อญาติให้ด้วย วันนั้นคริสไปทำงานสายจึงถูกหักเงินส่วนหนึ่ง                   หลายวันผ่านไปขณะที่คริสกำลังช่วยแม่กายภาพบำบัดที่หน้าบ้าน รถหรูมาจอดที่หน้าบ้านทำให้สองแม่ลูกชะงักและหันมอง ผู้ที่ก้าวลงจากรถคริสจำได้ว่าคือหญิงชราที่คริสช่วยไว้ เธอตามหาคริสอทุกวันหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล จนเมื่อเช้าเธอไปพบแพทย์ตามนัดและได้รู้จากอีธานว่าคนที่มาส่งที่โรงพยาบาลวันนั้นเป็นพี่สาวของแพทย์ที่รักษาเธออยู่  หญิงชราเป็นเศรษฐีมีกิจการมากมายได้เสนอเงินจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอที่จะทำให้เธอและแม่อยู่ได้อย่างสบายเป็นการตอบแทน แต่คริสปฏิเสธและบอกว่าช่วยด้วยความเต็มใจ  หญิงชรารู้เรื่องของคริสมาจากน้องชายอยู่บ้างแล้วจึงเสนอให้ทุนการศึกษาคริส และจะให้เธอทำงานเป็นผู้ช่วยจะได้มีเงินมาจุนเจือครอบครัวด้วยคริสมองหน้าแม่เหมือนจะขอความคิดเห็น แม่ของเธอเมื่อเห็นว่าการเรียนคือสิ่งที่คริสใฝ่ฝันมาตลอด และเธอก็ได้ทำงานด้วย จึงพยักหน้าให้คริสรับไว้ ตั้งแต่นั้นมาคริสจึงเรียนไปด้วยทำงานช่วยหญิงชราไปด้วย ด้วยความซื่อสัตย์และขยันของคริสทำให้หญิงชรารักและเอ็นดู จึงรับเธอมาเป็นลูกบุญทำเพื่อสานต่อกิจการของเธอทั้งหมด  ส่วนอีธานเรียนจบได้เป็นหมอตามความตั้งใจ เขาเป็นหมอที่มีจรรยาบรรณจนคนไข้รักใคร่  

           แม่ของคริสเฝ้ามองการเติบโตของลูกๆอย่างมีความสุข สุดท้ายแล้วในบั้นปลายชีวิตของเธอก็ได้เห็นลูกทั้งสองประสบความสำเร็จในชีวิต และสิ่งที่เธอได้สอนให้ลูกๆทำความดีได้ตอบแทนลูกๆของเธอแล้ว และยังส่งผลถึงเธอด้วย ปัจจุบันคริสเป็นนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จ และก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กยากไร้ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ ส่วนอีธานได้เป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งที่คอยช่วยเหลือชีวิตคนนับไม่ถ้วนและเขาไม่เคยลืมเลยว่า เขามีพี่สาวที่แสนดีและเสียสละมากขนาดไหน “คริส พี่สาวที่แสนดี”